Sunday, July 29, 2012

伯牙绝弦 -- Bo Ya Jue Xian

ไม่รู้จะแปลชื่อเพลงว่าอะไรดี 伯牙 (อ่านว่า โป๋หยา) เป็นชื่อคน ส่วน 绝弦 หมายถึงการตัดสายอะไรสักอย่าง

ถ้าจะให้อธิบายคงต้องเท้าความถึงเรื่องโบราณที่เล่าต่อกันมาว่า มีนักดนตรีที่ชื่อ 俞伯牙 (อวี๋โป๋หยา) เล่นเครื่องดนตรีประเภทสายที่เรียกว่า 古琴 (กู่ฉิน) เก่งมากจนถูกเรียกขานว่าเป็นเทพเลยทีเดียว เค้ามีคนที่รู้ใจที่ชื่อ 钟子期 (จงจื่อชี) ที่เข้าใจในดนตรีที่โป๋หยาเล่น คนนึงชอบเล่นดนตรี อีกคนก็ชอบฟังดนตรี ทั้งสองคนรู้ใจกันและกัน สามารถเข้าใจอีกฝ่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากบอก เพียงฟังเสียงฉินก็สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ จนมาวันหนึ่งจื่อชีป่วยและตายลง โป๋หยาจึงไร้สิ้นคนรู้ใจ เค้าคิดว่า ในเมื่อในโลกนี้ไม่มีใครสามารถเข้าใจในดนตรีที่เค้าเล่นได้อีกแล้ว เค้าจะยังเล่นฉินต่อไปอีกทำไม เค้าจึงตัดสินใจตัดสายฉินของเค้าทิ้งซะ และไม่เล่นฉินอีกต่อไป

คำว่าคนรู้ใจในที่นี้ไม่ได้หมายถึงคนรัก แต่เป็นความหมายของ "เพื่อนที่รู้ใจ" (ทั้งโป๋หยาและจื่อชีเป็นผู้ชายทั้งคู่ กรุณาอย่าเหมาว่าเค้าเป็นเกย์นะ) ในเพลงนี้และในบทความทั่วไป เวลาพูดถึงคู่นี้จะใช้คำว่า "知音" ซึ่งคำว่า 知 แปลว่ารู้ และคำว่า 音 แปลว่าเสียง (อาจจะเป็นเสียงเพลงหรือเสียงพูดก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเอาไปรวมกับคำไหน) ดังนั้น 知音 จึงเป็นการรู้ใจโดยฟังเสียง

เพลงของพี่หวังเพลงนี้ก็ใช้คำว่า 知 เยอะมาก ความหมายส่วนใหญ่ก็ใกล้เคียงกัน ต่างกันเพียงเล็กน้อย อย่างคำว่า 知音 กับ 知心 เราก็แปลว่ารู้ใจเหมือนกัน แต่อย่างที่บอกไปแล้ว จริงๆ คำว่า 知音 หมายถึงรู้เสียง ส่วน 知心 นั้นแปลว่ารู้ใจ (心 แปลว่าใจ)

พอแปลเพลงนี้เสร็จ + อ่านเรื่องของโป๋หยากับจื่อชี เราก็มานั่งคิด อยากมีคนแบบจื่อชีสักคนบ้างจัง คนที่รู้ใจโดยไม่ต้องเอ่ยปาก แต่ถ้าได้เจอคนแบบนั้นแล้วต้องจากกันแบบโป๋หยากับจื่อชี อืม..เราว่าเราเป็นแบบนี้ก็ดีแฮะ มันคงรู้สึกแย่มากถ้าต้องเสียคนที่รู้ใจไป คงแย่กว่าการมองหาแต่หาไม่เจอเยอะ

อ้อ เราเคยพยายามร้องเพลงนี้ แต่สุดท้ายก็ดำน้ำได้แค่ไม่กี่ประโยค เพลงแนวนี้ก็ดีนะ แต่ร้องตามไม่ทันนี่ทำเอาความชอบลดลงไปเยอะ ยังดีที่ MV เจ๋งมาก เลยนั่งดูเพลินๆ แทนการร้องคลอ






伯牙绝弦

(*)
知人知面 知己知彼 又知心
zhī rén zhī miàn zhī jǐ zhī bǐ yòu zhī xīn
รู้คนรู้หน้า รู้เขารู้เรา ยิ่งรู้ใจ

古人说 这就是所谓知音
gǔ rén shuō zhè jiù shì suǒ wèi zhī yīn
โบราณว่าไว้ นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า คนรู้ใจ

相知相惜 相亲相爱 也相忆
xiāng zhī xiāng xī xiāng qīn xiāng ài yě xiāng yì
ต่างรู้ต่างเห็นค่า ต่างหลงต่างรัก และต่างมีความทรงจำร่วมกัน

朋友你会不会常把我想起
péng you nǐ huì bù huì cháng bǎ wǒ xiǎng qǐ
เพื่อนเอ๋ย เธอจะคิดถึงฉันบ่อยๆ ไหม

(**)
何年何月 何日何时 再相聚
hé nián hé yuè hé rì hé shí zài xiāng jù
ปีไหน เดือนไหน วันไหน เวลาไหน ถึงจะได้พบกันอีก

何时能把酒言欢畅回忆
hé shí néng bǎ jiǔ yán huān chàng huí yì
เมื่อไรถึงจะสามารถนำบทสนทนาในวงเหล้ารื้อฟื้นความทรงจำ

很多很多 很深很深 的回忆
hěn duō hěn duō hěn shēn hěn shēn de huí yì
ความทรงจำที่มากมายลึกซึ้ง

很多歌 我只想要为你唱起
hěn duō gē wǒ zhǐ xiǎng yào wèi nǐ chàng qǐ
มีเพลงมากมาย ที่ฉันอยากจะร้องให้เพียงแต่เธอ



春秋时期 远近知名伯牙琴艺
chūn qiū shí qī yuǎn jìn zhī míng bó yá qín yì
ในยุคสมัยชุนชิว ใกล้ไกลต่างรู้จักโป๋หยา นักดีดฉิน

沉鱼也出水 马儿仰秣聆听
chén yú yě chū shuǐ mǎ ér yǎng​ líng tīng
ปลาใต้น้ำก็ยอมขึ้นจากน้ำ ม้าก็ยังเงยหน้าตั้งใจฟัง*

聆听 寂寞 的声音
líng tīng jì mò de shēng yīn
ฟังอย่างตั้งใจ สุ้มเสียงของความเหงา

举世知名 不如 一个知音
jǔ shì zhī míng bù rú yī gè zhī yīn
โด่งดังทั่วโลก เทียบไม่ได้กับคนรู้ใจสักคน



直到子期 闻琴解开伯牙心境
zhí dào zǐ qī wén qín jiě kāi bó yá xīn jìng
จนกระทั่งจื่อชีได้ยินเสียงฉิน ไขปมในใจโป๋หยา

高山流水 风景似有灵悉
gāo shān liú shuǐ fēng jǐng sì yǒu líng xī​
เขาสูง สายน้ำไหล ทิวทัศน์ดั่งเทวดารับรู้

高山青 流水静 如镜
gāo shān qīng liú shuǐ jìng rú jìng
เขาสูงเขียวสด น้ำไหลนิ่ง ดั่งกระจก

无言却胜过有言的天地
wú yán què shèng guò yǒu yán de tiān dì
โลกที่ไร้ภาษากลับเหนือกว่าโลกที่มีคำสนทนา


(***)
听 宫 商 角 徵 羽
tīng gōng shāng jiǎo zhǐ​ yǔ
ฟัง กง ซาง เจี่ยว จื่อ อวี่**

那歌词未写上的是那份弦外的延长音
nà gè cí wèi xiě shàng de shì nà fèn xián wài de yán cháng yīn
เนื้อเพลงนั้นที่ยังไม่ได้เขียนไว้ คือโน้ตลากยาวที่เกินสายฉินจะเล่นได้

斟一杯酒 一抱拳 一句关心
zhēn​ yī bēi jiǔ yī bào quán yī jù guān xīn
รินสุราหนึ่งจอก ประชันกันหนึ่งยก หนึ่งประโยคแห่งความห่วงใย

在千年之后 再延续 不变的旋律
zài qiān nián zhī hòu zài yán xù bù biàn de xuǎn lǜ
พันปีหลังจากนี้ ค่อยบรรเลงต่อ ท่วงทำนองที่ไม่เปลี่ยนแปลง

当 春 雪 融 夏 景 秋风为我捎封信
dāng chūn xuě róng xià jǐng qiū fēng wèi wǒ shāo​ fēng xìn
เมื่อ ฤดูใบไม้ผลิ หิมะ ละลาย ฤดูร้อน สว่างสดใส สายลมฤดูใบไม้ร่วงช่วยฉันส่งจดหมาย

冬 冬锣隆冬墙 冬 冬锣隆隆冬墙墙
dōng dōng luó​ lóng​ dōng​ qiáng​ dōng dōng luó​ lóng​ dōng​ qiáng​ qiáng
ตุ้ง ตะลุ่งตุ้งฉ่าง ตุ้ง ตะลุ่งตุ้งฉ่าง ฉ่าง

又是思念的四季
yòu shì sī niàn de sì jì
ก็ยังคงเป็นความคิดถึงทั้งสี่ฤดู


(*),(**)


某年某月 某天伯牙再访子期
mǒu nián mǒu yuè mǒu tiān bó yá zài fǎng zǐ qī
สักปี สักเดือน สักวัน โป๋หยาไปเยี่ยมจื่อชีอีกครั้ง

风景依旧绿 子期却已归西
fēng jǐng yī jiù lǜ zǐ qī què yǐ guī xī
ทิวทัศน์ยังคงเขียวสดเหมือนเก่า จื่อชีกลับลาจากโลกนี้ไปแล้ว

触景 触琴 即伤情
chù​ jǐng chù​ qín jì shāng qíng
เห็นทิวทัศน์ เห็นฉิน ยิ่งเศร้าใจ

伯牙绝弦 只因再无知音
bó yá jué xián zhǐ yīn zài wú zhī yīn
โป๋หยาตัดสายฉิน เพียงแค่เพราะไร้ซึ่งคนรู้ใจอีกครั้ง



千年过去 当我再度拨弄琴韵
qiān nián guò qù dāng wǒ zài dù po1 nòng qín yùn​
พันปีผ่านไป ตอนฉันพรมนิ้วบรรเลงฉินอีกครั้ง

更多冷箭 更多冷言冷语
gèng duō lěng jiàn gèng duō lěng yán lěng yǔ
มากไปด้วยลอบทำร้าย เต็มไปด้วยคำพูดถากถาง

请你听 请轻轻 倾听
qǐng nǐ tīng qǐng qīng qīng qīng tīng
เชิญคุณฟัง โปรดฟังเบาๆ อย่างตั้งใจ

唱给我永远不离弃的知音
chàng gěi wǒ yǒng yuǎn bù lí qì de zhī yīn
ร้องให้คนรู้ใจของฉันที่ไม่มีวันจากไป


(***),(*),(**)







*เป็นการเปรียบเปรยว่าเสียงนั้นเพราะมาก แม้แต่ปลาที่อยู่ในน้ำก็ยังขึ้นมายังผิวน้ำ และม้าที่ปกติก้มหน้ากินหญ้าก็ยังเงยหน้าขึ้นมา เพื่อตั้งใจฟังเสียงดนตรีนั้น

**ดนตรีจีนมีเสียงอยู่ 5 เสียง เทียบได้กับ Do Re Mi Sol La



.

1 comment:

  1. 知音นี่ใช้ได้กับทุกเพศเลยไหมคะ จำเป็นต้องเป็นเพศเดียวกันหรือเปล่าคะ หญิงกับหญิง ชายกับหญิงได้หรือเปล่าคะ

    ReplyDelete