Sunday, February 24, 2013

梅花香 -- กลิ่นดอกเหมย

แปลตั้งแต่สมัยยังเรียนกับอาจารย์.. ส่วนใหญ่ก็ฝีมืออาจารย์แปลนั่นแหละ แต่มีบางส่วนที่เราต้องเปิดหาความหมายเองด้วย เพราะฟังอาจารย์อธิบายแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ

เพลงนี้เป็นเพลงประกอบละครโบราณ พูดเกี่ยวกับนักศึกษาในสมัยโบราณว่าต้องทนลำบากต่างๆ นาๆ เป็นต้นว่า ต้องอ่านหนังสือตอนดึกๆ แล้วกลัวหลับ ก็เลยเอาผมผูกไว้กับขื่อ ถ้าหลับหัวทิ่ม ผมก็จะโดนกระตุก ทำให้ตื่น หรือเอาเหล็กแหลมๆ วางไว้ใต้เก้าอี้ เอาไว้ทิ่มก้นตัวเองจะได้ไม่หลับ แล้วก็ถ้าหากเป็นบ้านที่ยากจน ไม่มีแม้กระทั่งเทียนไข ก็ต้องไปจับเอาหิ่งห้อยมาให้แสงสว่าง.. ลำบากแท้

อ้อ ไม่อยากจะคุย เราอุตส่าห์ร้องตามได้หลายประโยคอยู่นะ แต่ก็ได้แค่นั้นแหละ จำศัพท์ในเพลงนี้แทบไม่ได้เลย อาศัยท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองเอา 555





梅花香

少年郎 上学堂 背诗文 头摇脑晃
shào nián láng shàng xué táng bēi shī wén tóu yáo nǎo huǎng
ท่านชายน้อย เรียนหนังสือ ท่องบทกวี หัวโยกหัวคลอน

松烟墨 蒙恬笔 算盘珠 敲得噼啪响
sōng yān mò méng tián bǐ suàn pán zhū qiāo de pī pā xiǎng
แท่งหมึกเถ้าสน พู่กัน ลูกคิด เคาะจนดังปิ๊กป๊อกๆ

读破万卷书 谁能比我强
dú pò wàn juàn shū shéi néng bǐ wǒ qiáng
ท่องตำราเป็นหมื่นจนขึ้นใจ จะมีใครเก่งไปกว่าฉัน



背不出 慢慢想 想不出 就打手掌
bēi bù chū màn màn xiǎng xiǎng bù chū jiu dǎ shǒu zhǎng
ท่องไม่ออก ค่อยๆ นึก นึกไม่ออก ก็โดนตีฝ่ามือ

学古人 头悬梁 锥刺股 萤火虫借亮
xué gǔ rén tóu xuán liáng zhuī cì gǔ yíng huǒ chóng jiè liàng
เรียนแบบคนโบราณ ผูกผมไว้บนขื่อ แท่งแหลมๆ ทิ่มก้น อาศัยแสงจากหิ่งห้อย

梦想路很长
mèng xiǎng lù hěn cháng
หนทางไปยังความฝันยังอีกไกล



不怕少年狂 轻舞飞扬 十年寒窗
bù pà shào nián kuáng qīng wǔ fēi yáng shí nián hán chuān
ไม่กลัวความบ้าระห่ำในวัยรุ่น เต้นระบำพริ้วไหว* ทนหนาวสิบปี

宝剑锋 梅花香 碧罗天 未雨绸缪苦做舟
bǎo jiàn fēng méi huā xiāng bì luó tiān wèi yǔ chóu​ móu​ kǔ zuò zhōu
กระบี่ล้ำค่าคมกริบ กลิ่นดอกเหมย ฟ้าเขียวดั่งหยก ลำบากลำบนเตรียมเรือให้พร้อมก่อนฝนตก

学海无涯 高山流水 知音在等候
xué hǎi wú yá gāo shān liú shuǐ zhī yīn zài děng hòu
การเรียนไม่มีจุดสิ้นสุด เขาสูงสายธารไหล คนรู้ใจกำลังรอคอยอยู่

且看这光阴 似水流 哗啦啦 一去不回头
qiě kàn zhè guāng yīn sì shuǐ liú huā lā lā yī qù bù huí tóu
ยิ่งมองกาลเวลา ไหลเหมือนสายน้ำ ไหลจ๊อกๆ ผ่านไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก

都说玉不琢 不成器 人不学 不知义
dōu shuō yù bù zhuó bù chéng qì rén bù xué bù zhī yì
ล้วนแต่พูดกันว่าหยกยังไม่แกะ ก็ไม่มีประโยชน์ คนที่ไม่เรียน ก็ไม่รู้จักคุณธรรม

上考场 可别发抖 与人争辩 也要文绉绉
shàng kǎo chǎng kě bié fā dǒu yǔ rén zhēng biàn yě yào wén zhòu zhòu
ตอนอยู่ที่สนามสอบ ก็อย่าสั่น โต้วาทีกับคน ก็ต้องสุภาพ

且看这光阴 似水流 莫等闲 我要占鳌头
qiě kàn zhè guāng yīn sì shuǐ liú mò děng xián wǒ yào zhàn áo tóu
ยิ่งมองกาลเวลา ไหลเหมือนสายน้ำ อย่ารอคอยอย่างโง่ๆ ฉันจะยึดตำแหน่งหัวแถว




*ความหมายที่หาได้จาก Baidu คือ มีหญิงสาวที่ป่วยหนักคนหนึ่ง มีความฝันว่าต้องการจะเต้นรำ เธอยอมสละแม้ชีวิตตัวเองเพื่อได้เต้นรำ




.

一个人就好 -- แค่คนเดียวก็ดี

ความรู้สึกที่อยู่ๆ ก็เหงาขึ้นมา ทั้งๆ ที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายที่กำลังหัวเราะกันอย่างมีความสุข อยากได้มุมส่วนตัวเพื่อปล่อยให้น้ำตาที่กลั้นไว้ได้ไหลอย่างเป็นอิสระ

ความรู้สึกผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ความรักที่คิดว่าน่าจะไม่ต้องเสียน้ำตา แต่สุดท้ายเมื่อถึงบทสรุป ก็ลงเอยด้วยความเหงาเพียงลำพังเหมือนทุกครั้ง

ในเมื่อเป็นแบบนี้ การอยู่คนเดียวกับตัวเอง ให้ตัวเองได้ปลดปล่อยหยาดน้ำตา ก็ไม่แย่อย่างที่คิด.. ฉันจะเข้มแข็ง และยืนขึ้นมาให้ได้อีกครั้ง แม้จะเป็นเพียงแค่ฉันคนเดียว ก็ไม่เห็นเป็นอะไร


... ฟังไป แปลไป น้ำตาคลอไป ทำไมเพลงนี้ถึงได้เหงาซะขนาดนี้นะ






一个人就好

街挤满了欢笑
jiē jǐ mǎn le huān xiào
ถนนแน่นขนัดไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข

太不适合 眼泪凑热闹
tài bù shì hé yǎn lèi còu rè nào
ช่างไม่เหมาะสม ที่จะเอาน้ำตาไปเฮฮาด้วย

快跑 快寻找 无人的转角
kuài pǎo kuài xún zhǎo wú rén de zhuǎn jiǎo
รีบวิ่ง รีบค้นหา หลืบมุมที่ไร้ผู้คน

不优雅时候 一个人最好
bù yōu yǎ shí hòu yī gè rén zuì hǎo
ช่วงเวลาที่ไม่งดงาม อยู่คนเดียวดีที่สุด



爱说退就退潮
ài shuō tuì jiù tuì cháo
รักบอกว่าถอยก็ลดลงดั่งน้ำทะเล

我松开手 回忆却没放掉
wǒ sōng kāi shǒu huí yì què méi fàng diào
ฉันคลายมือลง กลับไม่ปล่อยวางความทรงจำ

未来不来了 地球继续绕
wèi lái bù lái liǎo dì qiú jì xù rào
วันข้างหน้ามาไม่ถึงแล้ว โลกยังคงหมุนต่อไป

躲回温暖的梦 我一个人就好
duǒ huí wēn nuǎn de mèng wǒ yī gè rén jiù hǎo
กลับไปซ่อนในความฝันที่อบอุ่น ฉันแค่คนเดียวก็ดี


(*)
为什么越相信谁能依靠
wèi shén me yuè xiāng xìn shéi néng yī kào
ทำไมยิ่งเชื่อว่าใครสามารถพึ่งพิงได้

越换来又一次灵魂寂寥
yuè huàn lái yòu yī cì líng hún jì liáo
ยิ่งได้กลับมาเป็นวิญญาณที่เดียวดายอีกครั้ง

有没有永远再不会让心绝望的解药
yǒu méi yǒu yǒng yuǎn zài bù huì ràng xīn jué wàng de jiě yào
มีอยู่หรือไม่ ยาแก้พิษที่ทำให้หัวใจไม่สิ้นหวังอีกไปตลอดกาล

如果说越踏出世界一脚
rú guǒ shuō yuè tà chū shì jiè yī jiǎo
ถ้าหากบอกว่าเหยียบย่างไปบนโลกแม้สักก้าว

越不能保留住天真微笑
yuè bù néng bǎo liú zhù tiān zhēn wēi xiào
ก็จะไม่สามารถเก็บรักษารอยยิ้มที่ไร้เดียงสาได้

那从今以后 我一个人过就很好
nà cóng jīn yǐ hòu wǒ yī gè rén guò jiù hěn hǎo
งั้นจากวันนี้ไป แค่ฉันคนเดียวก็ดีมากพอแล้ว



心很平静地跳
xīn hěn píng jìng de tiào
ใจเต้นอย่างเงียบสงบมาก

只是寂寞 潜伏像海啸
zhǐ shì jì mò qián fú xiàng hǎi xiào
เพียงแต่ความเหงา ซ่อนตัวดั่งซึนามิ

突然某一秒 偷袭我眼角
tū rán mǒu yī miǎo tōu xí wǒ yǎn jiǎo
วินาทีใดวินาทีหนึ่ง ก็จู่โจมขอบตาของฉันอย่างไม่ตั้งตัว

眼泪自己擦掉 我一个人很好
yǎn lèi zì jǐ cā diào wǒ yī gè rén hěn hǎo
เช็ดหยดน้ำตาด้วยตัวเอง ฉันแค่คนเดียวมีความสุขดี


(*)





.

Sunday, February 17, 2013

心墙 -- Heart Wall

ขอเพียงยังเหลือช่อง แม้จะเล็กแค่ไหนบนกำแพงนั้น
ฉันจะปีนขึ้นไปทำให้ความเจ็บปวดของเธอมลายไป

Love you.





心墙

一个人 眺望碧海和蓝天
yī gè rén tiào wàng bì hǎi hé lán tiān
ทอดสายตามองมหาสมุทรเขียวมรกตและท้องฟ้าครามเพียงลำพังคนเดียว

在心里面 那抹灰就淡一些
zài xīn lǐ miàn nà mò huī jiù dàn yī xiē
ภายในใจ รอยสีเทานั้นจึงจางลงหน่อย

海豚从眼前飞越
hǎi tún cóng yǎn qián fēi yuè
ปลาโลมากระโดดอยู่ตรงหน้า

我看见了最阳光的笑脸
wǒ kàn jiàn le zuì yáng guāng de xiào liǎn
ฉันมองเห็นใบหน้าแย้มยิ้มที่สว่างสดใสที่สุด

好时光都该被宝贝 因为有限
hǎo shí guāng dōu gāi bèi bǎo bèi yīn wèi yǒu xiàn
ควรทนุถนอมช่วงเวลาดีๆ ทั้งหลายเพราะมีอยู่จำกัด


(*)
我学着不去担心得太远
wǒ xué zhe bù qù dān xīn de tài yuǎn
ฉันเรียนรู้ที่จะไม่กังวลไกลเกินไป

不计划太多 反而能勇敢冒险
bù jì huà tài duō fǎn ér néng yǒng gǎn mào xiǎn
ไม่คิดจุกจิกมากไป กลับยิ่งกล้าที่จะเสี่ยง

丰富地过每一天 快乐地看每一天
fēng fù de guò měi yī tiān kuài lè de kàn měi yī tiān
ผ่านแต่ละวันอย่างหลากหลาย มองทุกๆ วันอย่างมีความสุข

第一次遇见阴天遮住你侧脸
dì yī cì yù jiàn yīn tiān zhē​ zhù nǐ cè liǎn
ครั้งแรกที่เมฆหมอกปกคลุมใบหน้าของเธอ

有什么故事好想了解
yǒu shén me gù shì hǎo xiǎng liǎo jiě
มีเรื่องอะไร อยากเข้าใจเหลือเกิน

我感觉我懂你的特别
wǒ gǎn jué wǒ dǒng nǐ de tè bié
ฉันรู้สึกว่าฉันเข้าใจความพิเศษของเธอ



(**)
你的心有一道墙 但我发现一扇窗
nǐ de xīn yǒu yī dào qiáng dàn wǒ fā xiàn yī shàn chuāng
ใจของเธอมีกำแพงอยู่หนึ่งอัน แต่ฉันพบหน้าต่างบานหนึ่ง

偶尔透出一丝暖暖的微光
ǒu ěr tòu chū yī sī nuǎn nuǎn de wēi guāng
นานๆ ครั้งก็จะมีแสงสลัวที่อบอุ่นรอดผ่านออกมา

就算你有一道墙
jiù suàn nǐ yǒu yī dào qiáng
ถึงแม้ว่าเธอจะมีกำแพง

我的爱会攀上窗台盛放
wǒ de ài huì pān shàng chuāng tái shèng fàng
รักของฉันจะปีนขึ้นไปเบ่งบานที่ขอบหน้าต่าง

打开窗你会看到悲伤融化
dǎ kāi chuāng nǐ huì kàn dào bēi shāng róng huà
เมื่อเปิดหน้าต่าง เธอจะพบความเจ็บปวดละลายไป


(*),(**),(**)


你会闻到幸福晴朗的芬芳
nǐ huì wěn dào xìng fú qíng lǎng de fēn fāng
เธอจะได้กลิ่นอายของความสุขสดใส




.